Sunday, 28 April 2024
NEWSFEED

ขอขมาลาโทษกันแล้ว บนเวทีปราศรัย

เมื่อเวลา 10.00 น.นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี ได้เดินทางเข้าพบรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อขอขมา-ขอโทษ กรณีนายชัยชนะ กล่าวปราศรัย หาเสียงทางการเมืองที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 4 มีค.2566 พาดพิงถึง ม.ทักษิณ

 

ในทำนองดูแคลนผู้สมัครจากพรรคการเมืองคู่แข่งว่าสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณไม่ได้จบการศึกษาจากต่างประเทศแบบพรรคของตน ทางรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ กล่าวว่า

 

เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดเห็นของปัจเจกบุคคล ทางตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมาขอโทษและขอขมาในสิ่งที่เกิดขึ้นในต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ในวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง และวันนี้นายสานันท์ และนายชัยชนะ (แทน) ได้เดินทางไปขอขมา และขอโทษต่ออธิการบดีแล้ว

 

ซึ่งทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อผู้กระทำผิด ยอมรับผิด และมาขอขมาลาโทษกันแล้ว บนเวทีปราศรัยเป็นการพูดสด อาจจะผิดพลาดกันได้

 

 

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์พื้นที่ บ้านปูลาโต๊ะบีซู ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อรับฟังปัญหาและชี้แจงนโยบายเกษตรพลังงาน โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่บ้านปูลาโต๊ะบีซู ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน

 

ซึ่งรายได้ไม่แน่นอน ส่งผลต่อปัญหาหนี้สิน ที่ดินที่อยู่อาศัย วนเป็นวงจรความยากจน และหากไม่มีการปรับเปลี่ยน ชีวิตก็คงอยู่แบบเดิม พรรคไทยภักดีจึงนำเสนอนโยบาย จะทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินได้รับการจัดสรรที่ดินและให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการพืชพลังงานจากเนเปียร์

 

ซึ่งขณะนี้พรรคไทยภักดีมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลงกว่าอดีต ซึ่งในอนาคตรายได้หลักจะมาจากเกษตรพลังงาน ขณะที่รายได้เสริมก็มาจากอาชีพประมงพื้นบ้าน พรรคไทยภักดีมองว่า การแก้ปัญหาหนี้สินที่ดีไม่ใช่การพักหนี้แต่ต้องให้มีรายได้เพิ่ม

 

“นวัตกรรมเกษตรพลังงานเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมจากกระทรวงพลังงาน ไทยภักดีจึงต้องมาต่อสู้ หากโครงการนี้เกิดได้ค่าไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม จะถูกลงแน่นอน”

 

นายมูหัมมัดไชดี เจ๊ะแวประธานสภา อบต.ศาลาใหม่ กล่าวว่า ประชากรบ้านปูลาโต๊ะบีซู มีประมาณกว่า 700 คนอาชีพหลักคือ ประมงพื้นบ้าน แต่รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาวะธรรมชาติ ซึ่งปีนี้มรสุมเข้า ชาวประมงยังไม่สามารถออกเรือได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหา หนี้สิน ที่ดินอยู่อาศัย ซึ่งประมาณ 40 % ของประชากรเท่านั้นที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ก็กำลังเผชิญปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

 

ขณะที่เยาวชนก็มีการศึกษาแค่ภาคบังคับ จบมาต้องไปหางานทำที่มาเลเซีย มีไม่ถึง 10 % ที่มีโอกาสได้รับการศึกษาต่อ

 

พัฒนาขนส่งใต้ อัปเดต Landbridge ชุมพร-ระนอง เผย 2 ตำแหน่งท่าเรือไหน เหมาะสุด

ความคืบหน้าล่าสุด #Landbridge ชุมพร-ระนอง 

สรุปตำแหน่งท่าเรือน้ำลึก และเส้นทาง MR8 เชื่อม 2 ฝั่งทะเล

 

ตามที่ได้สัญญาไว้เรื่องความคืบหน้าโครงการ Land bridge ชุมพร-ระนอง เลยเอาความคืบหน้าภาพรวมมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันหน่อยครับ

 

โดยล่าสุดทางที่ปรึกษาได้มีการทำการเปรียบเทียบตำแหน่ง ของท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมกับเปรียบเทียบเส้นทาง เพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมโยงท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล โดยเป็นโครงการเร่งด่วนตามแผน MR-Map เส้นทาง MR8

 

รายละเอียด MR8 Landbridge ชุมพร-ระนอง ก่อนหน้านี้

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1364108297360979&id=491766874595130

 

เรามาเริ่มกันที่ตำแหน่งท่าเรือกันก่อน

 

โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งทะเลคือ

- ฝั่งอันดามัน (ระนอง)

- ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร)

 

ฝั่งอันดามัน ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่

- เกาะตาวัวดำ

- เกาะสน

- แหลมอ่าวอ่าง

 

ฝั่งอ่าวไทย ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่

- แหลมประจำเหียง

- แหลมริ่ว

- แหลมคอเขา

 

ซึ่งมีการเปรียบเทียบในด้านความเหมาะสมด้านการเดินเรือ, การพัฒนาท่าเรือ, มูลค่าการลงทุนทั้งด้านการเงินและเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม 

 

ทำให้มีการเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ

- ฝั่งอันดามัน ที่ แหลมอ่าวอ่าง

- ฝั่งอ่าวไทย ที่ แหลมริ่ว

 

*** รายละเอียดดูได้จากรูปภาพแนบด้านล่าง ***

 

หลังจากได้ตำแหน่งท่าเรือที่เหมาะสมแล้วก็มาลงเส้นทางถนน เพื่อเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งต่อ

 

โดยในเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระยอง นี้จะมีส่วนประกอบที่มากกว่าถนนธรรมดา ซึ่งรวมการขนส่งทุกรูปแบบมารวมกันได้แก่

- Motorway 

- ทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร (เชื่อมต่อรถไฟทางคู่ในประเทศ)

- ทางรถไฟขนาดราง 1.435 เมตร (เส้นทางพิเศษเพื่อเชื่อมโยงระหว่าง 2 ท่าเรือ รองรับตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น ***ในระยะยาว)

- ท่อส่งน้ำมัน และก๊าซ

- ถนนเลียบเลียบทางรถไฟ (local road)

 

ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องเผื่อเขตทาง 160 เมตร เพื่อรองรับในอนาคตทั้งหมด แต่ในเฟสแรกอาจจะมีแค่บางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการจริง

 

โดยเปรียบเทียบเป็น 3 ทางเลือก ได้แก่

1. เส้นทางตัดตรง จากท่าเรือแหลมริ่ว-ท่าเรืออ่าวอ่าง มีระยะทาง 80 กิโลเมตร

2. เส้นทางปรับตามภูมิประเทศ ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอเมืองระนอง และ อ้อมลงทางทิศใต้ เข้าสู่ท่าเรืออ่าวอ่าง มีระยะทาง 89 กิโลเมตร

3. เส้นทางตามเส้นทางที่ 2 แต่มีการตัดข้ามทะเลก่อนเข้าท่าเรืออ่าวอ่าง ตามเส้นทางที่ 1 มีระยะทาง 88.7 กิโลเมตร

 

ซึ่งจากการเปรียบเทียบ ทั้ง 3 เส้นทาง เส้นทางที่ 2 เป็นเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

ใครที่สนใจสามารถตามโครงการได้จากเว็บไซด์ http://landbridgethai.com

 

คลิปรายละเอียดโครงการ

https://youtu.be/SiVrV8MtJwc

 

โดยหลังจากได้ตำแหน่งทั้งท่าเรือ และเส้นทางเชื่อมโยง 2 ท่าเรือแล้ว ก็จะมีการกระจายโครงการไปยังหน่วยงานต่างๆในการศึกษารายละเอียดเพื่อทำแบบก่อสร้าง และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยละเอียด เพื่อจะนำเสนอขออนุมัติต่อไป

 

หวังว่าโครงการนี้ถ้าศึกษาออกมา จะเป็นไปตามความต้องการของทั้งนักลงทุน และประชาชนในพื้นที่ เพราะสุดท้าย ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อขัดแย้ง หรือไม่เห็นด้วยกับโครงการ ก็คงเกิดไม่ได้ และเสียโอกาสในการพัฒนา ประตูฝั่งอันดามันกันต่อไป!!!

 

ที่มา โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย

ประชาธิปัตย์ บุก พัทลุง ปั้น 3 ผู้สมัครส.ส.รุ่นใหม่ ลุยศึกเลือกตั้ง

เวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์พัทลุง ที่โรงเรียนพัทลุงคึกคักสุดเหวี่ยงกับรูปแบบการปราศรัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เสริมเติมด้วยความสุขความสนุกผสมกับเนื้อหาเชิงนโยบายของพรรค

 

สนามกีฬาโรงเรียนพัทลุงเนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วม 30000 คน เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 9000 ตัวไม่พอนั่ง เสริมเข้ามาอีก 3000 ตัวก็ยังเต็ม รอบๆสนามก็นั่งมีคนนั่งฟังก็เต็ม ถนนรอบโรงเรียนรถจอดยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏสะท้อนถึงการกลับมาฟื้นคืนของประชาธิปัตย์ในสนามภาคใต้ พัทลุงถือเป็นอีกจังหวัดที่ประชาธิปัตย์ยึดครองมายาวนานแบบ “ยกจังหวัด”เพิ่งจะเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่เสียที่นั่งให้กับภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว “นริศ ขำนุรักษ์” ไว้รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้บ้าง

 

“เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราเผลอไปหน่อย ก็ถูกเพื่อนโจมตี ก็เป็นบทเรียนที่เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว”นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีพัทลุง

 

การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงประชาธิปัตย์เฟ้นหาหน้าใหม่-คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เขต 1 สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ที่ครั้งที่แล้วพลาดไป คราวนี้เอาใหม่กับความขยันลงพื้นที่พร้อมกับการหอบหิ้วสายเลือด “ธรรมเพชร” เต็มตัวลงสู้ศึก ที่พ่อ “สุพัฒน์ ธรรมเพชร” ไม่น่าจะให้ลูกพลาดอีกแล้ว แม้บางคนบอกว่า “บ้านใหญ่ธรรมเพชร” ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติก็ตาม “ธรรมเพชร ต้องเสถียร ธรรมเพชร พี่เถียงอยู่นี้ นั่งอยู่หลังเวทีเราเนี่ย พี่เถียรคือธรรมเพชรของแท้” นิพนธ์ กล่าวปราศรัยเพื่อยืนยันว่า ธรรมเพชรของจริงยังอยู่กับประชาธิปัตย์

 

ส่วนเขต 2 ก็เป็นสายเลือดนักการเมืองรุ่นเก๋า “ดร.เดย์-ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี” ลูกสาวของ “สานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีต ส.ส.คุณภาพสองสมัยของพัทลุง และอดีตนายก อบจ.พัทลุงสองสมัย ที่บอกกับตัวเองว่า “พอแล้ว”ในวัย 70 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ “ดร.เดย์” อาจารย์ มอ.ตรัง ผู้รับเลือดพ่อมาเต็มเปี่ยม

 

เขต 3 ก็เป็นคนรุ่นใหม่กิ๊ก “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายของ “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.5 สมัยของพัทลุง ที่สังกัดประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยอีกด้วย “ร่มธรรม” เป็นนักเรียนทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน จบแล้วไปเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ประชาธิปัตย์เห็นแววมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงเวลาก็ดันพ่อขึ้นบัญชีรายชื่อแล้วส่งลูกลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

 

นี้คือสามผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์พัทลุงที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นรุ่นทายาทที่ได้สายเลือดนักการเมืองมาเต็มๆที่ได้เวลาลงสู่สนามด้วยตัวเองกับประสบการณ์ที่เดิมตามหลังพ่อหาเสียงมายาวนาน

 

แม้บนเวทีปราศรัย “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์จะพลั้งเผลอไปบ้าง ไปกล่าวพลาดพิงถึง ม.ทักษิณ แต่ทันทีเจ้าตัวก็ออกมายอมรับผิด และขอโทษ ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ “ผิดแล้วยอมรับผิด”

“ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มหาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ สืบเนื่องจากเวทีปราศรัย และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุงพรรคประชาธิปัตย์ ณ จังหวัดพัทลุง

 

ผมต้องกราบขออภัยหากการปราศรัย ซึ่งในบางช่วง

บางตอนอาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ ซึ่งในข้อเท็จจริงผมไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือด้อยค่าสถาบันการศึกษาใดทั้งสิ้น และขอน้อมรับคำแนะนำของทุกท่านเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงต่อไป

 

คำกล่าวขอโทษของ “ส.ส.แทน” ซึ่งแทนเองก็ไม่ได้จบเมืองนอก เป็น “เด็กรามฯ”คนหนึ่ง ที่พ่ายแพ้ต่อระบบการศึกษาแบบ “แพ้คัดออก” และรามคำแหงคือทางเลือก และทางออกของระบบการศึกษาไทย รามคำแหงก็เป็นสถานศึกษาคุณภาพที่สร้างคน สร้างนักการเมืองมามาก

 

เมื่อรู้ว่าผิดและพร้อมขอโทษ ก็ควรจะได้รับการอภัย และไม่ใช่แค่นั้นวันอังคารที่ 7 มีนาคม ส.ส.แทน จะหอบช่อดอกไม้งามๆไปกราบขอโทษต่ออธิการบดีของ ม.ทักษิณ ที่วิทยาเขตพัทลุง (ป่าพยอม)

 

สนามเลือกตั้งพัทลุง 3 ที่นั่งจะเป็นการปรลองยุทธกันของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติไทย และพลังประชารัฐ ถึงที่สุดอำนาจอยู่ในมือประชาชนว่าจะตัดสินใจเลือกใคร พรรคไหนไปเป็นตัวแทนในสภาผู้แทนราษฎร

เพิ่มความปลอดภัย อช.หาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี

5 มีนาคม 2566 นางรักชนก แพน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่ากรณีเรือโดยสาร รับ-ส่ง นักท่องเที่ยว บริเวณเกาะไม้ไผ่ โดยเรือได้มีการทิ้งสมอลงสู่ทะเล แล้วถอยท้ายเรือเข้าบริเวณชายหาด เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยว และจะดำเนินการจอดเรือไว้บริเวณดังกล่าว นั้น

 

นางรักชนก แพน้อย กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ดำเนินการติดตั้งทุ่นถอยจอดเรือ บริเวณหน้าหาด เพื่อให้เรือใช้ถอยรับ-ส่งนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดแทนการทิ้งสมอ โดยเมื่อเรือส่งนักท่องเที่ยวเสร็จแล้ว ให้เรือไปจอดรอบริเวณทุ่นจอดเรือที่ได้ติดตั้งไว้ ทั้งนี้ทางอุทยานแห่งชาติได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบกิจการฯ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันไม่มีการจอดเรือบริเวณหน้าหาดที่บดบังทัศนียภาพของการท่องเที่ยวแล้ว

" จุรินทร์ " มั่นใจชาวสงขลา หนุนประชาธิปัตย์ยกทีม

5 มีนาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และ นายสรรเพรญ บุญญามณี  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัครเขต 2  และนายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 เข้าสักการะศาลหลักเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจตลอดเวลา จากนั้นได้เดินทางไปเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง เขต 1 และการมีปราศรัยย่อย เพื่อขอให้สนับสนุน นายสรรเพรญ เป็นผู้แทนเขต 1 บุตรชายของนายนิพนธ์ ผู้เป็นกำลังสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางประชาชนที่ตะโกนเป็นภาษาใต้ว่า “พันพรือ ก็ต้องเลือก สรรเพรญ” 

 

โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่ เขต 1 จ.สงขลา ว่า ประชาธิปัตย์มีความพร้อมมากกว่าพรรคอื่น เพราะมีการเปิดตัวเป็นพรรคแรกในสงขลา และผู้สมัครลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2562 โดยในเวทีปราศรัย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา ประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัย กว่า 40,000 คน สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณประชาธิปัตย์ในสงขลาฟื้นกลับมา ทำให้พวกเรามีขวัญกำลังใจและมั่นใจว่าจะชนะยกจังหวัด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก พร้อมกับยืนยันว่า ที่พูดนี้ ไม่ได้มโน หรือจินตนาการ แต่พูดจากความจริงที่มีประสบการณ์ และเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องชาวสงขลา

 

รวมถึงว่าที่ผู้สมัครทุกคน ล้วนเป็นคนคุณภาพ คนรุ่นใหม่ ทั้งนายสรรเพรญ นายสมยศ และนายนิพัฒน์ อีกทั้งยังมีนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ซึ่งเป็นทีมของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย จึงทำให้การเลือกตั้งจังหวัดสงขลาครั้งนี้ มีความพร้อม ประกอบกับนายนิพนธ์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง และรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้  ได้ผนึกกำลังกัน ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าชาวสงขลา จะให้การตอบรับประชาธิปัตย์เป็นอย่างดี 

 

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังให้สัมภาษณ์ถึง ผลนิด้าโพลที่ระบุว่า คนสงขลาสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่การเลือก ส.ส. เขตและบัญชีรายชื่อ ผลโพลยังคงให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอันดับหนึ่งนั้น ว่า ไม่เป็นไร เพราะระบบนี้ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี ที่เลือกผู้นำประเทศโดยตรง แต่ต้องเลือกผ่านระบบพรรคการเมือง ดังนั้น หากพรรคการเมืองคะแนนดี ได้ ส.ส. มาก ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคนั้นก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่สับสนกับระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยหัวหน้าพรรคเป็นส่วนหนึ่งของพรรค ถ้าพรรคคะแนนดี หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส. ล้วนแต่มีส่วน ที่ทำให้พรรคคะแนนดี 

 

ขณะเดียวกัน มั่นใจในระบบรัฐสภาว่า ถ้าเรามีเสียงมากพอ ก็สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยหลักของระบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าพรรคการเมืองใดรวมเสียงข้างมากได้ พรรคนั้นก็จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี 

 

สำหรับผลโพลในช่วงหลังที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่งนั้น มาจากการที่ประชาธิปัตย์มีความพร้อมทั้งในเรื่องตัวบุคคล และการลงพื้นที่ต่อเนื่อง รวมถึงความผูกพันกับคนใต้ และนโยบายของพรรคที่ชัดเจน ในการ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” พาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดี   และนโยบายย่อย 8 ข้อที่ผูกพันกับคนใต้ ทั้งในเรื่องของการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด การออกโฉนดที่ดินทำกิน 1 ล้านแปลง นมโรงเรียนฟรี 365 วัน ธนาคารหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงเรื่องการแบ่งเขตใหม่ของ กกต. ที่ทำให้ภาคใต้เพิ่มจาก 58 เขต เป็น 60 เขต ว่า  ถือเป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะทำให้มี ส.ส. เพิ่ม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมมากที่สุด โดยในเย็นวันนี้ (5 มีนาคม 2566) จะมีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี ครบทั้ง 5 คน ที่จากเดิมมี 4 เขต สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เพิ่มมา 1 เขตนั้น อยู่ระหว่างการคัดเลือก เพราะมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ เดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ เดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการส่วนตัว สวมเสื้อผ้าลายปาเต๊ะ สีสดใส สไตล์ชาวใต้

พลเอกประวิตร มีสีหน้าสดใส และยิ้มแย้มพูดคุยและร่วมถ่ายรูปกับแฟนคลับที่มาทักทายและให้กำลังใจ

โดยในช่วงเช้า พลเอกประวิตร มีกิจกรรม ทานน้ำชา "ริมถนน" (จิบชา กินตี แลนก) สี่แยกท่าซัก อ.เมือง เวลาต่อมา พลเอกประวิตรและคณะ เดินทางถึงพระธาตุ ร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช เสร็จแล้วเยี่ยมชมส้มโอทับทิมสยาม ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง

โดยในช่วงกลางวัน พลเอกประวิตร และคณะ ได้ทานอาหาร ในบริเวณสวนส้มโอ โดยมี เมนูอาหารเป็น ผัดหมี่ปากพนัง (ผัดหมี่กะทิ) แกงเขียวหวานเนื้อ น้ำพริกกะปิ ปลาทอด คั่วหมู ต้มส้มปลากระบอก

โดยในช่วงบ่าย พลเอกประวิตรเป็นประธานในพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน ณ โรงเรียนปากพนัง ต่อด้วยเดินทาง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดนางพระยา อ.เมือง โดยระหว่างทาง พลเอกประวิตร ได้ทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ ด้วยความเป็นกันเอง โดยมีแฟนคลับจำนวนมาก มาขอถ่ายเซลฟี่ และหอมแก้ม พลเอกประวิตร ได้ร่วมถ่ายรูปและทักทายประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง

กองทัพเรือภาคที่ 2

กองทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดงาน เนื่องในวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ 4 มี.ค.2566 ณ บริเวณลานพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แหลมสนอ่อน บริเวณสวนสองทะเล อ.เมือง จ.สงขลา

 

 

นายราเมศ รัตนะเชวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

วันที่ 4 มี.ค. 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส. จังหวัดพัทลุง

 

จะได้ร่วมกันเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง ทั้ง 3 เขต พร้อมกับปราศรัย “ประชาธิปัตย์ ยุคใหม่ โอกาสใต้บ้านเรา” ที่สนามโรงเรียนพัทลุง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. เป็นต้นไป

 

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (5 มีค.) นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค จะได้นำทีมเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง และพบกับสาขาพรรคที่จังหวัดสงขลา จากนั้นจะเดินทางไปเปิดปราศรัยที่จังหวัดปัตตานี ในช่วงเวลา 16.00 น.

 

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าได้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งแล้ว หลายพรรคการเมืองเริ่มออกเดินทางพบปะพี่น้องประชาชน สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือว่ามีความพร้อมในการสู้ศึกในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งพรรคได้ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเป็นพรรคการเมืองแรกๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ

 

พร้อมประกาศยุทธศาสตร์นโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่พรรคได้ทำมาแล้วและทำได้จริง บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ที่ทำให้พี่น้องชาวใต้ให้ความเชื่อมั่นและมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์เสมอมา จึงเชื่อว่าพี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีแน่นอน

 

 

เกาะไม้ไผ่

วันที่ 4 มี.ค.66 นางรักชนก แพน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่ากรณีเรือโดยสาร รับ-ส่ง นักท่องเที่ยว บริเวณเกาะไม้ไผ่ โดยเรือได้มีการทิ้งสมอลงสู่ทะเล แล้วถอยท้ายเรือเข้าบริเวณชายหาด เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยว และจะดำเนินการจอดเรือไว้บริเวณดังกล่าว นั้น

 

นางรักชนก แพน้อย กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ดำเนินการติดตั้งทุ่นถอยจอดเรือ บริเวณหน้าหาด

 

เพื่อให้เรือใช้ถอยรับ-ส่งนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดแทนการทิ้งสมอ โดยเมื่อเรือส่งนักท่องเที่ยวเสร็จแล้ว ให้เรือไปจอดรอบริเวณทุ่นจอดเรือที่ได้ติดตั้งไว้

 

ทั้งนี้ทางอุทยานแห่งชาติได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบกิจการฯ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันไม่มีการจอดเรือบริเวณหน้าหาดที่บดบังทัศนียภาพของการท่องเที่ยวแล้ว

 

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top