ตร.สืบสวนพังงา ตามรวบมือปืนรายสำคัญ ค่าหัว 1 แสน หลังหนีคดีฆ่าโหด 2 ผัว เมีย ชาวกะปง หลังก่อเหตุหลบหนีนาน 11 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดตามจับได้ ขณะกบดานอยู่ในป่า พื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พังงา นำโดย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา และ ชุดสืบสวนฯ ร่วมกันจับกุม นายสุรเดช ถนอมสิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่จ.31/2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ โดยจับกุมได้ที่สวนยางพาราในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2554 ได้มีเหตุคนร้ายได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิง นายประวัติ โกยผล และ นางสุภา โกยผล สองผัวเมียเสียชีวิต อย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.กะปง จังหวัดพังงา ต่อมาเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวน ได้ขอศาลจังหวัดตะกั่วป่า ออกหมายจับ ผู้ต้องหารวม 3 คน และ สามารถติดตามจับกุมได้ 2 คนคือผู้จ้างวาน และ คนขับรถ ส่วนนายสุรเดช หรือโก้ ถนอมสิน ซึ่งเป็นคนลงมือยิง ได้หลบหนีไป

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวน ได้ลงมากำชับสั่งการให้ ทีมสืบสวนให้ติดตามจับกุมมาให้ได้ เพราะเป็นคดีที่ร้ายแรง อีกทั้งผู้ต้องหารายนี้ยังเป็นผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้าง และ ผู้ร้ายสำคัญ มีรางวัลนำจับ ในบัญชี 100,000 บาท ตามปฏิทินหมายจับของตร.

ทางเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.พังงา และ ตำรวจภูธรภาค 8 โดยการสั่งการของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบช.ภ.8 ได้กำชับให้ทีมสืบสวนเข้าสืบสวนจับกุม ต่อมาทีมสืบสวนได้สืบสวนจนพบว่า นายสุรเดชฯ ได้หลบหนีไปอยู่ในรอยต่อ 4 จังหวัด คือ กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และ พังงา ประกอบด้วย อ.เขาพนม อ.พระแสง อ.ทุ่งใหญ่ อ.ไชยบุรี และ ปลายพระยา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าเขาและสวนยาง สวนปาล์มขนาดใหญ่)

และล่าสุดจนสืบทราบว่า นายสุรเดชฯ พักอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีสภาพเป็นป่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทางชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าจับกุม ได้ในที่สุด

สำหรับนายสุรเดชฯ ซึ่งมีอาชีพเป็นมือปืน และเป็นคนร้ายรายสำคัญ หลังก่อเหตุฆ่า 2 ผัวเมีย ในพื้นที่องกะปง ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 11 ปี

ที่มา : https://mgronline.com/south/detail/9650000103268

(23 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีคลิปเผยแพร่ตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนในสนามบิน ว่า เขาอาจใช้วิธีซิกแซ็ก ตามกฎหมายไม่มีเรื่องดังกล่าว การใช้ทรัพย์สินหรือบุคลากรของทางราชการ มาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ทําไม่ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ที่ไปอำนวยความสะดวกต้องไปแก้ปัญหา ดูว่าเขาทำผิดระเบียบหรือไม่ เรื่องนี้มีบทกำหนดการลงโทษอยู่ ยืนยันว่าในเรื่องของการท่องเที่ยว หากใครโฆษณาว่าใช้รถตำรวจนำได้ ก็มีแต่ถ้าทำผิดมาก ๆ ก็นำไปโรงพัก นําไปศาล เพื่อดำเนินคดี เรามีระบบที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการไปประชาสัมพันธ์ว่าสามารถทําได้ นายอนุทิน กล่าวว่า การตั้งใจกระทำผิดเพื่อประโยชน์การสร้างรายได้ ก็เป็นความเสี่ยงของเขา ถ้าคนไปเชื่อและใช้บริการเขา แล้ววันหนึ่งเกิดทําไม่ได้ เขาก็ต้องเดือดร้อน อาจต้องถูกดำเนินคดี สุดท้ายธุรกิจก็ไม่ยั่งยืน คนที่โฆษณาเช่นนี้ก็จะผิดต่อลูกค้าของเขา แต่คนที่ไปให้บริการแบบนี้ ถือว่าผิดกฎหมายบ้านเมืองและผิดระเบียบในทุก ๆ เรื่องอยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษ ไม่ต้องกังวล ไม่ได้เป็นส่วนที่ทําให้ประเทศไทยจะสูญเสียนักท่องเที่ยว เพราะเราไม่ได้โฆษณาว่ามาเมืองไทยแล้วจะมีรถนํา