Friday, 29 March 2024
POLITICS

'เสี่ยหนู' อ้อนคน กทม. ขอเปิดใจให้ 'ภูมิใจไทย' ชี้!! แม้ไม่มีฐานเสียงในเมืองกรุง แต่พร้อมดูแลรับใช้

(22 ม.ค.66) เวลา 17.30 น. ที่ชุมชนโรงปูน เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการมารับใช้พี่น้องประชาชน เป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้วได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ มาทั่วทุกภาคแล้ว และคิดว่าสิ่งที่เราทำมาถ้าเราสามารถนำมาเสริมในพื้นที่ กทม.ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น แม้ว่าภท.จะมีฐานส่วนใหญ่อยู่ในต่างจงหวัด แต่คนต่างจังหวัดมาทำงานในกทม.เยอะ

เพราะฉะนั้นถ้าเรามีพื้นที่และตัวแทนของเราในกทม. ก็จะได้ร่วมมือกัน โดยที่เรามีผู้แทนฯของประชาชนมาบอกว่าเราจะต้องทำอะไร ประชาชนต้องการอะไร เนื่องจากกทม.เป็นเขตบริหารพิเศษ เราก็ใช้ความสัมพันธ์การพึ่งพาระหว่างหน่วยงาน เช่น ภท. เรามีทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ

ซึ่งทั้ง 3 กระทรวงนี้ ถ้าเรามาเสริมให้ กทม.ได้มีเครือข่ายเพิ่มอีก 3 กระทรวง คนที่ได้รับประโยชน์คือชาวกทม คนเสียประโยชน์ไม่มี จะเห็นได้ว่าสถานการณ์โควิด เนื่องจากกทม.เป็นพื้นที่ใหญ่มาก แต่สถานพยาบาลมีไม่มาก ถ้าเราไม่ร่วมมือกันเหมือนที่ผ่านมา คนกทม.ก็จะมีอุปสรรคมากในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข แต่เมื่อมาร่วมมือกันได้เราก็จัดให้มีโรงพยาบาลสนามรายล้อมพื้นที่กทม.ทำให้ชาวกทม.เข้าถึงระบบสถานพยาบาลของรัฐในส่วนที่พรรคภท.ดูแลได้สะดวก

“ในพื้นที่กทม.ส่วนใหญ่ที่เราสามารถเติมให้ได้ตามอำนาจ ตามกฎหมายของหน่วยงานที่เรากำกับดูแลอยู่เราก็จะเติมได้เลย ส่วนไหนที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้บริหาร ก็คือกทม. เราก็จะประสานให้ ไม่ใช่มาแย่งกันทำงาน ไม่ใช่มากั๊ก" นายอนุทิน กล่าว

‘ภูมิใจไทย’ แชมป์พรรคการเมือง หลังได้รับเงินบริจาคมากที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 ที่ผ่านมา เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่บัญชีเงินบริจาคพรรคการเมือง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งหมด 14 พรรค โดยพรรคที่ได้รับเงินบริจาคสูงสุดคือ ‘พรรคภูมิใจไทย’ จำนวน 26,000,000 บาท รองลงมา คือ พรรคเพื่อไทย 16,000,000 บาท

ส่วน พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และเพิ่งเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้รับบริจาค 3,000,000 บาท

สำหรับผู้บริจาคที่น่าสนใจของพรรคภูมิใจไทย พบว่า ปรากฏบริษัทเอกชนหลายรายร่วมบริจาค ได้แก่ หจก.น้ำก่ำก่อสร้าง ร่วมบริจาคสูงถึงจำนวน 10 ล้านบาท บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด บริจาค 1 ล้านบาท บริษัท ธนาวิส 2020 จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท

ขณะที่ นายนรเทพ อมรางกูร บริจาค 3 ล้านบาท น.ส.ทัศนีย์ โพธารส นายกำพล อัศวโชค น.ส.สุภัทรา สอนแตง และนายธวัช เบญจพลชัย บริจาคคนละ 2 ล้านบาท นายบุญส่ง ศิริมาศเกษม บริจาค 1 ล้านบาท

‘อภิชา’ ลาออก ‘ส.ส.-ดีดตัวออกกลุ่มไลน์พรรค’ เจ้าตัวระบุ ยังสังกัด ‘ภูมิใจไทย’ ขอรอดู ‘กำนันป้อ’ ก่อนตัดสินใจย้ายไปพรรคไหน

(20 ม.ค.66) นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และมีผลในวันนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากสภาล่มบ่อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ ขอไปทำพื้นที่ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่า เตรียมตัวจะย้ายสังกัดไปพรรคอื่นหรือไม่ นายอภิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด รอดูนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ก่อน เพราะนายวีรศักดิ์สุขภาพไม่ค่อยดี จะยุติบทบาททางการเมือง ตนก็เลยออกมาตั้งหลัก สภาก็ล่มบ่อยด้วย ตอนนี้ยังอยู่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ออกจากภูมิใจไทย หลังจากลาออกจาก ส.ส.ก็จะเน้นลงพื้นที่เป็นหลัก

นายอภิชา เปิดเผยอีกว่า ได้แจ้งเรื่องการลาออกจาก ส.ส.กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งนายสรอรรถ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

‘สิริพงศ์’ จี้ ยุบสภาฯ เหตุล่มบ่อย อัด ผลาญงบมหาศาล บี้ ฝ่ายค้าน-รัฐบาลเข้าประชุม เตรียมเดินหน้าผลักดัน กฎหมายกัญชา หาเสียงรอบหน้า หากไม่ผ่านวาระ 3

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่รัฐสภา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ล่มบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… ก็ล่มอีกครั้ง ว่า เหตุสภาฯ ล่มเกิดขึ้นก่อนที่ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าสู่ที่ประชุม และเมื่อร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าก็ล่มอีก เป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะการประชุมสภาฯ แต่ละสัปดาห์ สภาต้องจ่ายเงินให้กับสมาชิกที่เดินทางมาประชุมเป็นเงินจำนวนมาก ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร และค่าใช้จ่ายของสภาฯ ด้วย ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ไม่คุ้มค่า และไม่สามารถทำงานได้ ตนมองว่าเหตุสภาฯ ล่มไม่ได้เป็นเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ก่อนหน้านี้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ที่เป็นประชุมร่วมรัฐสภาก็ล่ม บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยการประชุมสภา ตอนนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตกับประชาชนยังค้างอยู่ เช่น กฎหมายประมง ร่างพ.ร.บ.ระบบราง ขณะนี้น่าจะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งลงพื้นที่ และไม่อยากเกี่ยวข้องกับงานสภาฯแล้ว หากเป็นเช่นนี้ควรยุบสภาฯ และเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านในวาระ 3 หรือพิจารณาไม่ทันในสมัยประชุมนี้ พรรคภูมิใจไทยจะนำไปหาเสียงต่อหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้กัญชาก็ยังมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ เช่น การสูบในที่สาธารณะ การจำหน่ายกัญชาให้กับเยาวชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถเอาผิดได้ แต่ในเรื่องรายละเอียดของการควบคุมที่จะปลูก ตนมองว่ากฎหมายยังมีความสำคัญและยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมต่อไป

‘ภูมิใจไทย’ กรุงเทพฯ เปิดแคมเปญรับศึกเลือกตั้ง ชูนโยบายบ้าน ๆ แต่โดนใจ "เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส"

ภูมิใจไทย กรุงเทพฯ ขอดูแลคนเมืองกรุง ทุกวัน ทุกเวลา และครอบคลุมทุกวัย ด้วยนโยบาย 24 ชั่วโมง 7 วัน "ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7" นโยบายบ้านๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน โดยยึดหลักการ "เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส"

พรรคภูมิใจไทย กรุงเทพฯ เปิดแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง "ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7"  พร้อมติดป้ายพรึ่บทั่วกรุง ด้วยนโยบายที่ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตของคนเมืองกรุง ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน

ส่องนโยบายพรรคภูมิใจไทย สำหรับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ

"เพิ่มรายได้"

การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชม. เปิดพื้นที่การค้าขาย ที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารกรองรับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. คล้ายตลาดนัด ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศไต้หวัน หรือประเทศเกาหลี และเราต้องจัดระบบดูแลความปลอดภัยทั้งแสงสว่าง กล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบการขนส่งเพื่อรองรับ คนทำงานช่วงกลางคืน

พันธบัตรรัฐบาล (Thai Power Bond)

พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนมีสิทธิซื้อก่อนนิติบุคคล หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการออม และ ประกันเงินฝาก สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มความมั่นคงในการออมเงิน และเศรษฐกิจของประเทศ

"ลดรายจ่าย"

พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก

ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับเงินกู้นอกระบบที่คิดร้อยละ 3 ต่อเดือน ถือได้ว่า สามารถช่วยผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ได้ถึง 30,000 บาทต่อเดือน

One day Pass Ticket ตั๋ววัน

ค่าเดินทางที่เป็นต้นทุนของการดำเนินชีวิต หากเราสามารถล็อกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ให้แพงเกินไป

◇รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท

◇รถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท

เครื่องกรองน้ำดื่มทุกชุมชน
น้ำดื่มเป็นต้นทุนที่สูงประชาชนส่วนหนึ่งเพื่อมาซื้อน้ำดื่ม จ่ายเงินเพื่อเติมเงิน เพื่อกรองน้ำไปใช้ ส่วนนี้จะต้องไม่เป็นภาระของประชาชนในทุกขุมชนอีกต่อไป

ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ภูมิใจไทย จะนำนโยบาย ติดโซลาร์ รูฟ ฟรี ทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถนำส่วนนี้มาเป็นการลดภาระของค่าไฟ

‘ภูมิใจไทย’ ชูนโยบาย รักษามะเร็งฟรี แบ่งเบาทุกข์ของทุกคนในครอบครัว

(18 ม.ค. 66) หลังจากที่พรรคภูมิใจเปิดตัวนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว พรรคภูมิใจไทยก็ได้เปิดตัวนโยบาย ‘รักษามะเร็งฟรี’ โดยมีจุดประสงค์เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ของคนครอบครัว โดยระบุว่า

โรคมะเร็งถือเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตของคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่น่ากลัวไปกว่านั้นยังพบว่า มะเร็งมีโอกาสเกิดขึ้นกับคนอายุน้อยลงมากขึ้นอีกด้วย

แน่นอนว่าโรคร้ายนี้ไม่มีใครอยากเป็น และไม่มีใครอยากให้โรคนี้เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เพราะเมื่อเป็นแล้วไม่ใช่แค่ตัวผู้ป่วยเท่านั้นที่ทุกข์ใจ แต่ทำให้ทุกข์ใจทั้งบ้าน นอกจากในส่วนของอาการป่วยแล้ว บางบ้านยังต้องมาทุกข์ใจกับค่าใช้จ่ายในการรักษา จนถึงกู้หนี้ยืมสินมารักษาคนที่เรารัก ถือเป็นความทุกข์หลายต่อ

‘อารี ไกรนารา’ นำทีมผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เดินหน้าเต็มสูบ พบปะประชาชนวันละหลายจุด หลัง กก.บริหารพรรคตั้งเป้าหมายชนะเลือกตั้งเพิ่มเป็น 5 เขต ยืนยันคะแนนนิยมดีวันดีคืน

วันที่ 17 ม.ค. 66 ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านโคกเลา หมู่ 6 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าทีมเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทีมงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ของนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร โซนชะอวด-จุฬาภรณ์ ร่วมกันจัดกิจกรรม “เหลียวหน้าแลหลัง พัฒนาบ้านเรา” เปิดตัวนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โซนนี้ของพรรคภูมิใจไทย จ.นครศรีธรรมราช โดยเชิญนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะที่เป็นคน ต.เคร็ง โดยกำเนิด มาร่วมปราศรัยทำความเข้าใจในกฎระเบียบการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นช่วงกลางปี 2566 มีประชาชนในพื้นที่หมู่ 6 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช กว่า 200 คนเดินทางมาร่วมกิจกรรมและรับฟังการปราศรัยในแนวนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป

ในขณะที่พื้นที่ อ.ชะอวด และ ต.เคร็ง ประกาศชัดเจนที่จะสร้าง ส.ส.ของคนพื้นที่เขตป่าพรุควนเคร็งด้วยกันเอง โดยการเลือกนายณัฐกิตติ์ หนูรอด จากพรรคภูมิใจไทยที่เป็นคน ต.เคร็ง อ.ชะอวด โดยกำเนิด และในวันเดียวกันนี้ได้มีการเปิดเวที “เหลียวหน้าแลหลัง พัฒนาบ้านเรา” ในพื้นที่บ้านเสม็ดงาม หมู่ 8 ต.เคร็ง อ.ชะอวด อีกด้วยและมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกว่า 200 คนเช่นเดียวกัน

นายอารี ไกรนรา กล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจลาออกจาก ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติและย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยได้รับความไว้วางใจจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง และจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง พบว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีกระแสดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร เขต อ.ชะอวด ,จุฬาภรณ์ และบางส่วน อ.ร่อนพิบูลย์

ล่าสุดพรรคภูมิใจไทยได้จัดประชุมว่าที่ผู้สมัครในภาคใต้ และสรุปว่าพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้ง และบางจังหวัดมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะชนะยกจังหวัด สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคตั้งเป้าว่าจะชนะการเลือกตั้ง 3 เขต แต่หลังจากที่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครและตนลงพบปะประชาชนทั่วจังหวัดต่อเนื่องกว่า 1 เดือน และทางพรรคได้ทำโพลสำรวจพบว่าโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งมากถึง 6-7 เขต ทางผู้หลักผู้ใหญ่และคณะกรรมการพรรคจึงปรับการตั้งเป้าหมายที่จะชนะการเลือกตั้งเป็น 5 เขตจาก 9 เขตเลือกตั้ง

'พุทธพงษ์' ชู วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี ผ่าน eTAX

หลังจากสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เสนอผลสำรวจ เรื่อง นโยบายพรรคที่โดนใจ คน กทม. ซึ่ง นโยบายพรรคที่โดนใจคน กทม. ของพรรคภูมิใจไทย ใน 3 อันดับแรกครองใจคนกทม. ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ รักษาฟรี โรคมะเร็ง ได้ร้อยละ 79.7 อันดับสองได้แก่ ฟอกไตฟรี ผู้สูงอายุวัคซีนฉีดฟรีถึงบ้าน ร้อยละ 77.8 และอันดับที่สามได้แก่ เพิ่มรายได้ เปิดพื้นที่ค้าขายรองรับท่องเที่ยว 24 ชั่วโมง ร้อยละ 77.0 ตามลำดับ

ล่าสุด ขุนพลกรุงเทพฯ แห่งภูมิใจไทยอย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เผยถึงนโยบายระลอกใหม่ที่จะกระชากใจคนกรุงอีกด้วยว่า...

ด้าน วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน 'ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี' ผ่านระบบ eTAX

เป็นหน้าที่ของคนทำงานทุกคน ที่ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือรับงานฟรีแลนซ์ ก็จำเป็นต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นประจำทุกปี ยิ่งมีรายได้มากก็ยิ่งต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย แล้วจะดีแค่ไหน ?? ถ้าภาครัฐมีการออกมาตรการช่วยคนที่เสียภาษีให้รู้สึกได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับที่เสียไป 

'ภูมิใจไทย' เปิดฉาก!! ขอ ส.ส.เมืองหลวงไว้เป็นฐานเสียง เปลี่ยนภาพลักษณ์พรรค ไม่ถูกมองว่าเป็นพรรคภูธร

ขณะที่ระหว่างกำลังรอการโปรดเกล้าฯ ร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ฯ และร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ในส่วนของการเตรียมการเลือกตั้ง พบว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่รับผิดชอบภารกิจควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อเตรียมรับกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นตลอดเวลา

อย่างเรื่องของ การแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า หลังสำนักงาน กกต.ได้รับข้อมูลฐานจำนวนประชากรประเทศไทย ที่เป็นข้อมูลล่าสุดสิ้นสุดเมื่อ 31 ธ.ค.2565 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากกระทรวงมหาดไทย ทำให้ขณะนี้ฝ่าย กกต.เริ่มขยับเตรียมพร้อมสำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 400 เขต ที่จะต้องมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจากตอนเลือกตั้งปี 2562 ขึ้นมา 50 เขต โดย กกต.ได้นำฐานข้อมูลดังกล่าวมาเตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งและประกาศการแบ่งเขตอย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งกระบวนการดังกล่าว กกต.จะทำได้ต้องรอให้มีการประกาศใช้กฎหมายทั้งสองฉบับข้างต้นเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ กรุงเทพมหานคร ที่จะมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพิ่มมา 3 เก้าอี้ รวมเป็น 33 เก้าอี้ จากเดิม 30 ที่นั่ง ก็เป็นเรื่องน่าสนใจว่าจะทำให้การแบ่งเขตของ กกต.จะออกมาอย่างไร จะส่งผลต่อการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในสนามเลือกตั้งเมืองหลวงนี้หรือไม่?

หลังพบว่า หลายพรรคการเมืองต่างก็หมายมั่นปั้นมือจะคว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้ง กทม.ให้ได้ ทั้งพรรคปีกฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน และพรรคตั้งใหม่

อย่างหนึ่งในพรรคที่ก็ต้องการมี ส.ส.เขต กทม.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้ นั่นก็คือ พรรคภูมิใจไทย ที่ชูสโลแกนการหาเสียงในพื้นที่ กทม.ไว้ว่า ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7

ที่หมายถึงการสื่อกับคน กทม.ว่า ภูมิใจไทยขออาสาทำงานเพื่อคน กทม. 24 ชั่วโมง 7 วัน สำหรับคน กทม.ทุกกลุ่ม

ส่วนว่าแคมเปญดังกล่าวจะซื้อใจคน กทม.จนทำให้ภูมิใจไทยสามารถปักธง มี ส.ส.เขต กทม.ที่มาจากการเลือกตั้งได้หรือไม่ ต้องดูกระแสตอบรับจากคน กทม.ว่าคิดอย่างไรกับนโยบายที่ภูมิใจไทยนำมาเสนอ รวมถึงต้องดูตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ของภูมิใจไทยทั้ง 33 เขตว่า สู้กับพรรคการเมืองอื่นมีลุ้นหรือไม่ อีกทั้งต้องดูกระแสพรรคใน กทม.เมื่อเข้าสู่การหาเสียงเลือกตั้งเต็มตัวว่า กระแสภูมิใจไทยใน กทม.เป็นอย่างไร ทั้งหมดคือองค์ประกอบสำคัญที่จะมีผลอย่างมากแน่นอน สำหรับภูมิใจไทย ในการหวังปักธง ส.ส.เขต กทม.ให้ได้

หลังก่อนหน้านี้ ภูมิใจไทย ในตอนเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และตอน 2562 กระแสพรรค-ตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต เป็นรอง หลายพรรคการเมืองที่ขับเคี่ยวสู้กันดุเดือดใน กทม.อยู่หลายขุม จนทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่มีลุ้นในการเลือกตั้งสองครั้งข้างต้นตั้งแต่ลงสนามเลยด้วยซ้ำ แต่เลือกตั้งที่จะมีขึ้น แกนนำภูมิใจไทย ทั้งอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ หมายมั่นปั้นมืออย่างมากว่ารอบนี้พรรคต้องปักธงใน กทม.ให้ได้

หลังได้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รับผิดชอบพื้นที่กทม. ให้พลังประชารัฐรอบที่แล้ว มาเป็นกัปตันทีม พาภูมิใจไทยเข้าสู่สนามเลือกตั้ง กทม. ที่รู้กันดีว่าเป็น สนามปราบเซียน คาดเดาได้ยากว่าผลเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน อีกทั้งเป็นสนามเลือกตั้ง ที่ กระแส ทั้งกระแสพรรค กระแสผู้สมัคร มีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อการชี้ขาดผล แพ้-ชนะ  

หลักร่วมทัพภูมิใจไทย จากนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 

‘บี พุทธ์พงษ์’ เผยเหตุผลหลักร่วมทัพภูมิใจไทย เพราะมีนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 
“พรรคภูมิใจไทยยืนยันนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมมายืนตรงนี้เพราะเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง”

อุดมการณ์สำคัญที่สุด

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กล่าวเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 66 ในงานเปิดตัวสมาชิกที่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำคณะทำงานในกรุงเทพมหานครของพรรคภูมิใจไทย

'อนุทิน' ขอบคุณ อสม. ด่านหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ยัน!! 'สาธารณสุข' มอบ 'สวัสดิการ-ดูแล' ต่อเนื่อง

(12 ม.ค.65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศปรับระดับโรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มาตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 โดยภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง และรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค วันที่ 1-7 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 997 คน หรือเฉลี่ยวันละ 142 คน นับว่าเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานของรัฐ เอกชน ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการโควิด19 ของไทย มีส่วนสำคัญจากการทำงานหนักของบุคลากรทุกระดับ รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นกองหน้าในการช่วยดูแลสุขภาพคนไทยไปถึงชุมชนระดับฐานรากทั้งในช่วงเกิดโรคระบาดและสถานการณ์ปกติ และขอบคุณพี่น้องอสม. ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆในการดูแลคนไทยมาโดยตลอด เป็นด่านหน้าคนแรกๆ ที่เข้าไปดูแลคนชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. จึงได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลและมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม. ทั่วประเทศให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19และสถานการณ์ปกติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีสวัสดิการที่เป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) 1,050,306 คน อาทิ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เพิ่มเติมอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 รวมกว่า 15,000 ล้านบาท และมีสวัสดิการดูแลสุขภาพตามรายการตรวจสุขภาพประจำปี ภายใต้ระเบียบสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ อสม. ได้รับการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย อาทิ การประเมินคัดกรองความดันโลหิต, ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด(Thai CV risk score), ภาวะซึมเศร้า,ภาวะเครียด  สำหรับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพิ่มการตรวจความเข้มข้นระดับน้ำตาลในเลือด(FBS)ตรวจอุจจาระ (Stool examination)สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และกรณีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการประเมินภาวะถดถอย 9 ด้าน

‘บี พุทธิพงษ์’ ชูนโยบาย ‘ภูมิใจกรุงเทพ’ เน้น ‘ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-พัฒนาคุณภาพชีวิต’

วันนี้ (11 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของบรรดานักการเมืองที่ทยอยเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยวันนี้มีการเปิดตัว นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อมาดูแลกทม. นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังนี้โดยเฉพาะ นายพุทธิพงษ์ ซึ่งถือว่าความสัมพันธ์กับตนมีตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มาถึงรุ่นลูก และนายพุทธิพงษ์ทุ่มเท มีความสามารถ ความตั้งใจรับใช้บ้านเมือง ซึ่งตรงกับความตั้งใจของพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย เติมเต็มพรรคภูมิใจไทยให้เป็นพรรคการเมืองของประเทศ

จากนั้น นายพุทธิพงษ์ได้นำเสนอนโยบายว่า “ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ ขอนําเสนอนโยบายที่เร่งฟื้นตัวความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ ที่ถือได้ว่าหากกรุงเทพฯ ฟื้นตัวตัวก็จะสามารถส่งผลไปยังทั้งประเทศ กรุงเทพฯ เปรียบเสมือนหัวใจหลักของประเทศไทย พรรคภูมิใจไทย พวกเราขอดูแลคนกรุงเทพฯ ทุกวัน ทุกเวลา และครอบคลุมทุกวัย มาร่วมกันทํา เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ภูมิใจ…ภูมิใจกรุงเทพ” โดยนโยบายที่นำเสนอ ได้แก่

เพิ่มรายได้ การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ : เปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชม. เปิดพื้นที่การค้าขาย ที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารถรองรับ นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. คล้ายตลาดนัด ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศไต้หวัน หรือ ประเทศเกาหลี และต้องจัดระบบดูแล ความปลอดภัยทั้งแสงสว่าง กล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบการขนส่งเพื่อรองรับ คนทํางานช่วง กลางคืน

พันธบัตรรัฐบาล (Thai Power Bond) พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนมีสิทธิซื้อก่อน นิติบุคคล หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการออมและ ประกันเงินฝาก สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มความมั่นคงในการออมเงิน และเศรษฐกิจของประเทศ

ลดรายจ่าย ทั้งนี้ พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก : ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับ เงินกู้นอกระบบที่คิดร้อยละ 3 ต่อเดือน ถือได้ว่า สามารถช่วยผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ ได้ถึงเดือนละ 30,000 บาทต่อเดือน

One day Pass Ticket ตั๋ววัน : ค่าเดินทางที่เป็นต้นทุนของการดําเนินชีวิต หากเราสามารถล็อกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ให้แพงเกินไป รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวันไม่เกิน 50 บาท รถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท

เครื่องกองน้ำดื่มชุมชน : น้ำดื่มเป็นต้นทุนที่สูงประชาชนต้องนําเงินส่วนหนึ่ง เพื่อมาชื้อนํ้าดื่ม จ่ายเงินเพื่อเติมเงิน เพื่อกรองนํ้าไปใช้ ส่วนนี้จะต้องไม่เป็นภาระของประชาชนในทุกชุมชนอีกต่อไป รวมถึง ติดโชลาร์ รูฟ ฟรี ทุกครัวเรือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าไฟของประชาชน

ลดภาษี 2 ทาง ผู้ให้/ผู้รับ : วัยทํางานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน (ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคล สูงสุด 150,000 บาท/ปี) วัยทํางานที่ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อนจะต้องหมดไป และจะได้นําเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายส่วนอื่น ในการสร้างเนื้อสร้างตัว

วัยเกษียณที่ยังคงทํางาน จะมีนโยบายในการ ปรับเพดานภาษีเงินได้ เงินส่วนนี้ต้องเสีย น้อยที่สุด เพื่อนําเงินส่วนต่างมาเป็นเงินออม เก็บไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเอง

ให้โอกาส โดยให้ชีวิตคืนสู่ครอบครัว : รักษาฟรีมะเร็ง เคยมีคําพูดใครในบ้านเป็นมะเร็ง ถือได้ว่าเป็นทุกข์ทั้งบ้าน ต่อไปนี้การรักษามะเร็ง จะฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อแบ่งเบาทุกข์ของทุกคน ในครอบครัว

ฟอกไตฟรี เช่นเดียวกันภาวะคนป่วยโรคไต ถือได้ว่าเป็นภาระที่หนักต่อครอบครัวที่ต้องดูแล ต่อไปนี้นโยบายฟอกไตฟรีจะมีขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของทุกคน

‘พุทธิพงษ์’ มั่นใจ!! สามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ แนะ ‘อดีต 8 ส.ส.กทม.’ ต้องรักษาพื้นที่ตัวเองให้ดี

‘พุทธิพงษ์’ มั่นใจคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.ได้ แต่เป็นรมต.ไม่ได้ ชี้ ‘อดีต 8 ส.ส.กทม.’ ย้ายซบ ‘ภท.’ ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ มองเป็นสิ่งดี ‘บิ๊กตู่’ โดดลงสนามการเมือง เพิ่มทางเลือกปชช. ลั่นไม่มีใครดีกว่าใคร อยู่ที่สถานการณ์วันนั้นใครเหมาะสมนำพาชาติ

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.50 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัติส.ส. จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่ หลังเคยต้องคดีชุมนุมทางการเมืองกับกปปส. ที่ต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายแล้ว สามารถลงสมัครส.ส.ได้ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพส.ส. ก็เป็นการร้องในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.อยู่ และเหตุการณ์จบไปแล้ว ซึ่งหากได้เป็นส.ส.ในครั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ไม่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญได้ระบุคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษา โดยไม่คำนึงว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะลงสมัครส.ส.หรือไม่อยู่ที่พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาอีกครั้ง 

ครอบครัวภูมิใจไทย ‘พุทธิพงษ์’ นำทัพ ‘อดีตส.ส.-คนรุ่นใหม่’ สมัครเข้าภท. พร้อมย้ำอุดมการณ์ ขอทำเพื่อคนกทม. ตลอด 24 ชม.

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 12.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.กทม. นำอดีต ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร, น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์, นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา รวมถึงทีมคนรุ่นใหม่ เช่น น.ส.พีร์ปภาอร เสถียรไทย หลานสาวนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นางศลิษา สิงหเสนี, น.ส.พิชามญช์ ชมะนันทน์, น.ส.อัชญา จุลชาต และนายพศิน ชาญศิลป์ นั่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามาตาม ถ.พหลโยธิน เข้ามายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเปิดตัวทีม ‘ภูมิใจไทย ภูมิใจกรุงเทพฯ’ 

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งขอเป็นคนทดลองขับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า โดยมีนายพุทธิพงษ์ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. บางส่วน ร่วมนั่งบนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าด้วย ซึ่งนายอนุทินได้ขับวนรอบพรรคหนึ่งรอบก่อนนำทั้งหมดขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรค เพื่อทำกิจกรรมเปิดตัว

ต่อมาเวลา 13.48 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยินดีต้อนรับครอบครัวภูมิใจไทย พี่น้องภูมิใจไทยในเขตกทม. สู่บ้านหลังนี้ ความสัมพันธ์ของตนกับนายพุทธิพงษ์ มีมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ จนถึงรุ่นลูก ซึ่งนายพุทธิพงษ์ มีความทุ่มเท เสียสละ ทำงานรับใช้บ้านเมือง ตรงตามเจตนารมณ์ของพรรค วันนี้ดีใจที่ท่านมาเป็นตัวแทนพรรคเสนอเป็นทางเลือกให้ประชาชนในเขตกทม. ต้องถือว่าท่านเป็นผู้เติมเต็ม เราพยายามรับใช้ประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่พรรคเราเริ่มต้นมาจากต่างจังหวัด ไม่มีพื้นฐานในกทม. เราอาจจะประหม่าในการเข้าถึงจิตใจคนกทม. แต่ช่วงที่ผ่านมา 4 ปี ที่เราได้ร่วมบริหารราชการแผ่นดิน เรามองว่ากทม. เป็นหัวใจของประเทศอีกหนึ่งจังหวัด เราไม่เคยมองข้าม ตนเชื่อว่า นายพุทธิพงษ์ และทุก ๆ คน คงมองว่าถึงเวลาที่พรรคภูมิใจไทยจะเข้า พื้นที่กทม.แล้ว เราจะทำจนสุดความสามารถที่ทำให้คนกทม. เชื่อมั่นในพรรค เหมือนกับคนทั่วประเทศที่เชื่อมั่น และให้โอกาสพรรคมาทำงาน

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า พรรคนี้เข้าถึงทุกคน ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรค เดินไปเดินมาตลอดไม่มีห้องกั้น ไม่ต้องแลกบัตร ปั๊มบัตร ปั๊มมือ ไม่ต้องเขียนชื่อเข้าพบ เราอยู่กันแบบพี่น้อง แบบครอบครัวที่อบอุ่น นี่คือจุดแข็งของพรรค ความเป็นเอกภาพถือเป็นเอกลักษณ์ของพรรค ขอให้ท่านนำสิ่งเหล่านี้มาสิงในตัวเอง หรือเรียกว่าองค์ลง สิ่งที่คนเชื่อว่ายากก็จะขับเคลื่อนได้ ถ้าเรามีประชาชนเป็นเป้าหมายก็จะประสบความสำเร็จ สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับตัวเอง และผู้บริหารพรรคทุกคน ที่ได้คนดี ๆ มาร่วมงาน ขอคารวะทุกท่านที่มาร่วมงานด้วยกัน

ว่าที่รัฐบาล ‘วีระกร’ เชื่อ ‘ภูมิใจไทย’ กวาด ส.ส.เกิน 120 คน ชี้!! ‘เสี่ยหนู’ นั่งนายกฯ ต่อจาก ‘บิ๊กตู่’ แน่นอน

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายวีระกร คำประกอบ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า คงไม่มีการชวนใครมาจากพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคเก่าที่อยู่กับเขามาถึง 4 ปี เป็นพรรคที่ดี ไม่ใช่ว่าเราออกมาด้วยเหตุผลเป็นพรรคที่ไม่ดี หัวหน้าพรรคก็ใจดี แต่สิ่งที่ตนต้องขออนุญาตว่าทำไมต้องย้ายมาพรรคภูมิใจไทยขอให้เหตุผล 2 ข้อ เรามีความคล่องตัวการทำงานการเมืองมากกว่า เราเจอกันในสภา เป็นนักการเมืองด้วยกันเจอกันอยู่ตลอด มีอะไรปรึกษาหารือกันได้ตลอด แต่ถ้าอยู่พรรคเดิมอาจจะต้องใช้เวลาที่จะพบกับหัวหน้าพรรค ไม่ได้พบกันแบบง่าย ๆ ข้อที่ 2 ตนมั่นใจในนโยบายพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ตนชอบใจมาก และสนับสนุนมาตลอดก็คือเรื่องที่ไม่ยอมขายหรือต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับผู้ถือสัปทาน เพราะอีกไม่กี่ปีจะกลับมาเป็นของประชาชนแล้ว

เมื่อถามว่า ได้ลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเก่าหรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า จริง ๆ ตนคุยกับ พล.อ.ประวิตรมา 2-3 เดือนแล้ว ตนพยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจแล้วว่าตนมีปัญหาอะไรในเรื่องงาน อย่างที่เล่าว่าตนไม่ค่อยคล่องตัวในการที่จะทำงานอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ หลาย ๆ เรื่องจะทำอะไรต้องรอฟังหัวหน้าพรรคก่อน การรอบางทีมันนานเกินไปมันไม่คล่องตัว ต้องเข้าตามระเบียบเขา ซึ่งไม่เหมือนนักการเมืองจะเจอกันทุกวันในการประชุมสภา

เมื่อถามว่า แต่ช่วงหลัง พล.อ.ประวิตร ได้แต่งตั้งเป็นรอง ผอ.พรรค นายวีระกร กล่าวว่า เมื่อตนพูดไปแล้วหัวหน้าพรรคคงเข้าใจแล้วว่าตนจะลาออกท่านจึงให้ตำแหน่งนี้มา ตนก็เรียนกับท่านว่าอย่างนั้นตนจะเริ่มทำงานเลย เพราะตนเข้าใจว่าจะเข้าพบได้ง่ายแล้ว

เมื่อถามว่า แล้วฟางเส้นสุดท้ายคืออะไร นายวีระกร กล่าวว่า ฟางเส้นสุดท้ายคือท่านบอกว่า “จะทำอะไรให้มาขอผมก่อน” ตนเข้าใจการไปพบผู้ใหญ่ต้องรอ แต่นักการเมืองด้วยกันไม่ต้องรอ คล่องตัวกว่า แต่สิ่งที่คุยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้ความเมตตา เข้าใจในเรื่องของเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องโรงงานปุ๋ย ตนมาคุยกับนายอนุทินเรื่องนี้เลยชวนตนมาช่วยพรรค 


© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top