Friday, 29 March 2024
South Time Team

บรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า

 

คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความ ได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในพิจารณาคดีของศาล

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่างๆนานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง

 

โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน

 

โดยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ทราบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพยายามประสานงานไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อ พบปะ พูดคุย หรือแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบได้ การดำเนินการต่อจากนี้ก็จะได้มีการประสานและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้กับพยานแต่ละท่านทราบ แต่หากพยานท่านหนึ่งท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งคณะ

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งคณะ อาทิ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค, นายนัดมุดดีน อูมา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสิรภพ ดวงสอดศรี ผอ.พรรค ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จัดเวทีปราศรัยพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

 

ประกอบด้วย จ.ปัตตานี ได้แก่

 

น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา เขต 1

นายอับดุลบาซิม อาบู เขต 2

นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ เขต 3

และนายฟรีดี เบญอิบรอน เขต 4

 

จ.นราธิวาส ได้แก่

 

นายลุตฟี หะยีอีแต เขต 1

นายราชวัตร เด่นตุลาการ เขต 2

นท.สุกรี ศรีริกานนท์ เขต 3

นายซาการียา สะอิ เขต 4

และนายสุกรี มะเต๊ะ เขต 5

 

จ.ยะลา ได้แก่

 

นายเกษมสันต์ สาแม เขต 1

นายอับดุลฮาฟิซ เขต 2

และนายมะรูดีน กาโฮง เขต 3

 

โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักท่ามกลางประชาชนกว่า 1.5 หมื่นคน มาร่วมรับฟังการปราศรัยในครั้งนี้

 

นายอนุทิน ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเองขอยืนยัน ว่าพรรคภูมิใจไทยมีพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งชาวพุทธ คริสต์ และมุสลิม อยู่ในหัวใจทุกวัน ไม่ว่าพี่น้องจะมีเชื้อชาติใดก็ตาม แต่ทุกคนคือคนไทยซึ่งพรรคขอมาทำหน้าที่ดูแล

 

วันนี้เรามาขอความรักจากคนนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ให้รักพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น การเลือกตั้งครั้งก่อนพี่น้องภาคใต้ให้ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แก่พรรคภูมิใจไทยถึง 11 คน ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ยังขาดอีกแค่ 30 คน พี่น้องชาวใต้ยังพอจะให้เรามากขึ้นได้หรือไม่ การมาครั้งนี้ของพรรคภูมิใจไทยเพื่อมาสร้าง มาเสนอ มาขอรับใช้ พี่น้องชายแดนใต้ให้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน เชื่อว่า พี่น้องจะให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย เพราะเราทำงานให้พี่น้องชาวใต้มาตลอดด้วยความภูมิใจ

 

“4 ปีที่แล้วเรามาคนเบะปากใส่ก็มี แต่วันนี้ทุกคนฉีกยิ้มให้หมด เราจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.นี้ เมื่อไปเลือกตั้งขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย และเมื่อรักคนแล้วขอให้รักพรรคด้วย และไม่ต้องห่วงการทำให้เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของผมที่จะทำให้ทั้งประเทศ ขออย่างเดียวให้กาทั้งพรรคทั้งคน ไม่วันที่ 7 ก็วันที่ 14 พ.ค.นี้ ไม่เกินจากสองวันนี้แน่นอน” นายอนุทิน กล่าว

 

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นโยบายหลัก 4 อย่าง ของพรรคคือการดูแลเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนต้องอิ่ม หนี้สินต้องได้รับการจัดการดูแล พักหนี้ 3 ปี ปลอดต้น ปลอดดอกเบี้ย การดูแลด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการศึกษา พรรคจะทำให้ด้ามขวานไทยเป็นด้ามขวานทองคำทั้งดุ้น ทั้งนี้ มีคนเคยบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน แต่พรรคมองว่าแค่อาเซียนไม่พอ แต่จะต้องเป็นศูนย์กลางเอเชีย สมัยก่อนบอกจะขุดคลองไทย แต่ต้องเชื่อมเมียนมา แบบนั้นเราเสียเปรียบ หรือถ้าจะขุดคลองพี่น้องก็จะไม่สบายใจ เพราะประเทศไทยต้องเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้น เราจะทำท่าเรือสองฝั่ง เชื่อมตะวันตกกับตะวันออก คือ ฝั่งซ้ายอยู่ระนอง ฝั่งขวาอยู่ชุมพร ตรงกลางมีถนนเชื่อมช่วยร่นระยะทางการขนส่ง และประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางเป็นชุมทางเปลี่ยนถ่ายสินค้า ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ภายใน 5 ปี จะได้เห็นแน่นอน จะต้องได้เสียแน่นอน

 

“ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้องอสม. ที่จะได้ 2,000 บาท แน่นอนในเดือน ต.ค. ที่ยังไม่ได้เลือกก็ทำให้แล้ว นี่คือคุณงามความดีของพี่น้องอสม. ซึ่ง 2,000 บาทนี้เป็นค่าป่วยการที่พี่น้องอสม. ดูแลคนไทยช่วงโควิด – 19 ผมอยู่มา 4 ปี ไม่มีใครรัก ไม่มีใครจริงใจ และรักพี่น้อง อสม. เท่ากับ อนท. (อนุทิน) คนอื่นไม่ต้องให้ใครมาเคลมใดๆทั้งสิ้น” นายอนุทิน กล่าว

 

นายอนุทิน กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า นโยบายของเราไม่ได้เป็นนโยบายขายฝันหลอกไปวันๆแล้วทำไม่ได้ แต่ 4 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่พูดแล้วทำ

 

 

 

ทำลายสถิติ 2 กิโล

12 มีนาคม 2566 – ที่ จ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนางสาววิเวียน จุลมนต์ ที่ปรึกษาทีมนโยบายของพรรค ได้ร่วมกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 ด้วยการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยโดยใช้เส้นทางจากโรงสีแดง (หับ โห้ หิ้น) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ไปยังเส้นชัยที่ Songkhla Pier ฝั่งหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยมีทีมรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการวางแผนกู้ภัยทางน้ำ ที่ได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ปีนี้มีนักว่ายน้ำทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 200 คน จากปีแรก (2021) ที่มีผู้เข้าร่วม 30 คน เนื่องจากปีนี้ มีการโปรโมทผ่านตัวนายกรณ์ และ นายจูรี ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

.

นอกจากนี้ ดาวติ๊กตอกชื่อดัง นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ให้หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครอีก 3 คนได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และ ทนายอาร์ม-นายพงศธร สุวรรณรักษา ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 9 เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

.

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนเข้าร่วมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ในกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 เป็นปีที่ 2 เพื่อช่วยโปรโมทการท่องเที่ยววิถีชุมชน ตลอดจนอาหารพื้นเมืองที่จัดไว้บริการผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ และอัตลักษณ์ที่สำคัญของ จ.สงขลา ที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราวยาวนานมาถึง 181 ปี สามารถผลักดันเป็นซอฟท์พาวเวอร์ ของจังหวัดได้แท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นการรณรงค์ ลด เลิก ทิ้งขยะลงในทะเล อนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ปลูกจิตสำนึกให้รักท้องทะเลสาบที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และปีนี้พิเศษกว่าทุกปี ตรงที่ผู้จัดงานได้ร่วมระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้กับ รพ.สต.หัวเขา อีกด้วย

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปีนี้นายกรณ์ สามารถว่ายน้ำทำลายสถิติของตัวเอง จากเดิมที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ปีนี้สามารถว่ายเข้าถึงเส้นชัยได้โดยใช้เวลาเพียง 54 นาที

.

นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังได้กล่าวถึงประเด็นการเมือง กรณีโพลหลายสำนักระบุว่าพรรคชาติพัฒนากล้ากระแสแรงใน จ.สงขลา ว่า โดยส่วนตัวมั่นใจในตัวผู้สมัคร ทั้ง 4 คน ว่าสามารถจะทำหน้าที่ผู้แทนที่ดีให้กับ ชาว จ.สงขลาได้ทุกคน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่า อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ หรือไม่ และจะให้โอกาสพรรคเรามากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า การเมืองเป็นเรื่องของการแข่งขัน และ จ.สงขลาเองก็มีเจ้าเก่ามีทายาทของขาใหญ่ ซึ่งก็เป็นความท้าทาย ที่เราก็พยายามเสนอแนวทางของเราอย่างสร้างสรรค์ ถามว่ามั่นใจไหม เราก็ต้องตอบว่าเรามั่นใจ แต่ถามว่าเรากลัวไหม ก็ต้องบอกว่าสิ่งเดียวที่กลัวคือ การใช้เงินซื้อเสียง ซึ่งว่าที่ผู้สมัครของเราทุกคน โดยเฉพาะนายจูรี ก็พยายามรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และในการจัดเวทีปราศรัย ก็เป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านหัวคะแนน ไม่มีการจัดตั้ง ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ล้วนมาด้วยใจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีมาก

.

#เซาท์ไทม์

ขอลงที่เขต 2 นครศรีฯ ‘มนตรี เฉียบแหลม’ เสนอตัว รับใช้พี่น้องประชาชน ในนามพรรคเพื่อไทย

มนตรี เฉียบแหลม เปิดเผยกับ #นายหัวไทร ว่า ได้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 และ 2 ในนามพรรคเพื่อไทย

“เขต 1 มีปรีชา แก้วกระจ่าง เสนอตัวด้วย จึงมีการพูดคุยกัน กำนันปรีชา เสนอเงื่อนไขว่า เขตไหนมีตำบลปากนครรวมอยู่ ก็จะลงเขตนั้น ถ้ากำนันปรีชาลงเขต 1 ผมก็จะขอไปลงเขต 2 แทน”

มนตรี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองในจังหวัดนครศรีธรรมราชมาร่วม 20 ปีแล้ว หลังลาออกจากราชการ ก็มาลงสมัคร ส.ส.เป็นกรรมการบริหารพรรคเสรีธรรม ที่ต่อมาไปรวมกับพรรคไทยรักไทย

“หลังจากนั้นก็อยู่บนเส้นทางการเมืองมาตลอด ไม่กลับเข้ารับราชการอีก และมาจับธุรกิจการบริบาลในภาคใต้มี 8 จังหวัด ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และต่อยอดสถานดูแลผู้สูงอายุอีก 2 จังหวัด คือนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี”

มนตรี บอกว่า ธุรกิจการบริบาลไปได้ดีมาก เพราะว่าไทยเราเป็นสังคมผู้สูงอายุแล้ว 100% มีผู้สูงอายุเกิน 20% ลูกๆก็ไม่มีเวลาดูพ่อแม่ ภาคเอกชนก็เข้ามาช่วยดูแลเสริมภาครัฐ มีการพักฟื้น ทำกายภาพบำบัด น้องๆที่จบการบริบาลมาก็มีงานทำ ในการดูแลผู้สูงอายุ

“ตามหลักสูตรการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ จะต้องเรียน 840 ชั่วโมง เป็นภาคทฤษฎี 420 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 420 ชั่วโมง เด็กจบแล้วมีงานทำ 100%”

มนตรี บอกว่า ตั้งแต่เปิดสอยมามีเด็กจบออกไปแล้ว 12000 กว่าคน เป็นอาชีพที่ขาดแคลน คนที่มีความรู้และมีประสบการณ์มีน้อยมาก

มนตรีอธิบายว่า ที่เสนอตัวลงเขต 1 หรือ 2 เพราะมาปักหลักทำธุรกิจอยู่ในเมืองมานานร่วม 15 ปี ย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองแล้ว ทำธุรกิจก็อยู่ในเมือง ทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่ในเมือง
“เราชอบการเมืองอยู่แล้ว พรรคเพื่อไทยมีนโยบายหลายเรื่องในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ผมจึงขันอาสามาลงสมัครในเขตเมือง”

เมื่อมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จำนวน ส.ส.เพิ่มเป็น 10 คน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า กำนันปรีชาน่าจะได้ลงเขต 1 และมนตรีก็จะขยับไปลงเขต 2 ซึ่งถือเป็นแนงทางที่ลงตัว

กล่าวสำหรับเขต 2 มีความเป็นไปได้สูงว่า มนตรีจะต้องแข่งกับสายัณห์ ยุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะย้ายมาลงเขต 2 เพื่อเปิดทางให้อำนวย ยุติธรรม น้องชายได้ลงในโซนท่าศาลา

ขอขอบคุณข้อมูล
นายหัวไทร

‘Mekha V’ รับรางวัล ‘Microsoft Partner of the Year 2022’ ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

 

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

 

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

 

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

 

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดอันดับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต

 

ปตท. พร้อมเป็นพลังสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI & Robotics & Digitalization) เป็นต้น

 

 

โครงการ Battery Technology for All

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All

ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่

การผนึกกำลังของ ปตท. และ นูออโว พลัส ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยมีเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมในอนาคต
 

“ชัยวุฒิ” ถกเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ผลักดันให้ถูกกฎหมาย เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี

วันนี้ (6 มีนาคม 2566), จังหวัดยะลา - สมาคมสื่อ MEDIA ASSOCIATION FOR SOCIETY OFFICE ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศ

 

โดยมีการจัดอบรมในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2566 เวลา 08.00 - 12.00 ณ ห้องประชุมกานเฉ่า ชั้น ๒ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี อาจารย์อับดุลฮาลีม อาแด อาจารย์ประจำสาขาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นผู้นำบรรยาย และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมวิดีโอคอล งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ทั้งนี้มีเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 60 คนเข้าร่วมกิจกรรม

 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า "ผมในนามกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีได้เข้าร่วมพูดคุย โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ซึ่งผมก็ได้ติดตามมามาพอสมควรช่วงที่ตนเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีดิจิทัลฯ ในช่วงแรกได้มีการดำเนินคดีกับสิ่งผิดกฎหมายบนออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่ผิดกฎหมาย พบว่าการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ตามสื่อ Social เป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อตนเองได้ศึกษาประเด็นดังกล่าวและได้มีประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เข้าพบเพื่อถกประเด็นดังกล่าวกับตนเองจึงพบว่ามี “ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า” ในประเทศไทยน่าจะทำให้ถูกกฎหมาย

 

เนื่องจากมีผู้ใช้อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริง และจากการพิสูจน์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น มีการอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกฎหมายได้ แต่ในประเทศไทยยังผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ขัดกับวิถีชีวิตและหลักสากล ทำให้ควบคุมได้ยากมาก คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เชื่อว่าบุหรี่มวนอันตรายและไม่อยากสูบบุหรี่จริง และที่สำคัญมีการลักลอบขายกันจนมาก จนคิดว่าเป็นเรื่องที่ ดัดจริต ที่ว่าสูบไม่ได้แต่ก็เห็นสูบกันกันทั่วไป

 

ดังนั้นตนเองจึงอยากเห็นงานเสวนาในครั้งนี้หารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยดูว่ามีประเด็นติดขัดเรื่องอะไรบ้าง เพื่อรวบรวมความเห็นจากหลากหลายกลุ่ม ในการพัฒนาเป็นกฎหมายที่คุ้มครองวิถีชีวิตคนไทยต่อไป

 

สุดท้ายนายชัยวุฒิได้เน้นย้ำว่า บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่คิดว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงก็ให้พวกเขาได้ใช้ ซึ่งมีจำกัดทางกฎหมาย ทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาเปลี่ยนส่วยเป็นภาษีได้ ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย แต่เราสูบอย่างอื่นได้มีหลายอย่างที่อันตรายกว่า ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่า กลับไม่ให้บริโภค ทางรัฐบาลและผมเองก็เห็นว่าหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยมีข้อจำกัด เรื่องกฎหมายที่ล้าสมัย นำมาปฏิบัติจริงไม่ได้ ขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน การสัมมนานี้จะช่วยให้เกิดประเด็นในสังคมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

 

ด้านนายนายอับดุลวาริส โลงซา ประธานสมาคมสื่อกล่าวว่า อยากเปิดพื้นที่ให้เยาวชนมาพูดคุยในเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเห็นถึงมุมมองของผู้เข้าร่วมโครงการและมุมมองของรัฐบาลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตลอดจนเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างภูมิคุ้มกันต่อเยาวชน เพราะปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทต่อเยาชนเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมาก ๆ และทิศทางในมุมอนาคตของเยาชนกับประเทศชาติทั้งประเด็นข้อกฎหมายการขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายนั้น ในมุมมองของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ภาคใต้นั้นเป็นเช่นใด และประเด็นข้อเท็จจริงจุดยืนในเรื่องหลักการของศาสนาอิสลามนั้นบุหรี่ถือเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ( ฮารอม )สำหรับชาวมุสลิมรวมถึงหมวดหมู่ที่รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าด้วย เพราะถือเป็นการนำสิ่งที่อันตรายเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงห้ามมุสลิมจึงต้องทำตาม

 

สำหรับโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ถึงประเด็นบุหรี่ไฟฟ้าว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ทั้งในด้านของกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และหารือแนวทางของบุหรี่ไฟฟ้าในอนาคตต่อไป

 

ขอขมาลาโทษกันแล้ว บนเวทีปราศรัย

เมื่อเวลา 10.00 น.นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี ได้เดินทางเข้าพบรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อขอขมา-ขอโทษ กรณีนายชัยชนะ กล่าวปราศรัย หาเสียงทางการเมืองที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 4 มีค.2566 พาดพิงถึง ม.ทักษิณ

 

ในทำนองดูแคลนผู้สมัครจากพรรคการเมืองคู่แข่งว่าสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณไม่ได้จบการศึกษาจากต่างประเทศแบบพรรคของตน ทางรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ กล่าวว่า

 

เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดเห็นของปัจเจกบุคคล ทางตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมาขอโทษและขอขมาในสิ่งที่เกิดขึ้นในต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ในวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง และวันนี้นายสานันท์ และนายชัยชนะ (แทน) ได้เดินทางไปขอขมา และขอโทษต่ออธิการบดีแล้ว

 

ซึ่งทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อผู้กระทำผิด ยอมรับผิด และมาขอขมาลาโทษกันแล้ว บนเวทีปราศรัยเป็นการพูดสด อาจจะผิดพลาดกันได้

 

 

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์พื้นที่ บ้านปูลาโต๊ะบีซู ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อรับฟังปัญหาและชี้แจงนโยบายเกษตรพลังงาน โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่บ้านปูลาโต๊ะบีซู ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน

 

ซึ่งรายได้ไม่แน่นอน ส่งผลต่อปัญหาหนี้สิน ที่ดินที่อยู่อาศัย วนเป็นวงจรความยากจน และหากไม่มีการปรับเปลี่ยน ชีวิตก็คงอยู่แบบเดิม พรรคไทยภักดีจึงนำเสนอนโยบาย จะทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินได้รับการจัดสรรที่ดินและให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการพืชพลังงานจากเนเปียร์

 

ซึ่งขณะนี้พรรคไทยภักดีมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลงกว่าอดีต ซึ่งในอนาคตรายได้หลักจะมาจากเกษตรพลังงาน ขณะที่รายได้เสริมก็มาจากอาชีพประมงพื้นบ้าน พรรคไทยภักดีมองว่า การแก้ปัญหาหนี้สินที่ดีไม่ใช่การพักหนี้แต่ต้องให้มีรายได้เพิ่ม

 

“นวัตกรรมเกษตรพลังงานเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมจากกระทรวงพลังงาน ไทยภักดีจึงต้องมาต่อสู้ หากโครงการนี้เกิดได้ค่าไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม จะถูกลงแน่นอน”

 

นายมูหัมมัดไชดี เจ๊ะแวประธานสภา อบต.ศาลาใหม่ กล่าวว่า ประชากรบ้านปูลาโต๊ะบีซู มีประมาณกว่า 700 คนอาชีพหลักคือ ประมงพื้นบ้าน แต่รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาวะธรรมชาติ ซึ่งปีนี้มรสุมเข้า ชาวประมงยังไม่สามารถออกเรือได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหา หนี้สิน ที่ดินอยู่อาศัย ซึ่งประมาณ 40 % ของประชากรเท่านั้นที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ก็กำลังเผชิญปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

 

ขณะที่เยาวชนก็มีการศึกษาแค่ภาคบังคับ จบมาต้องไปหางานทำที่มาเลเซีย มีไม่ถึง 10 % ที่มีโอกาสได้รับการศึกษาต่อ

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top